Red on the Rock “Jigsaw!!”

รูดม่านปิดฉากไปเรียบร้อยสำหรับศึกพรีเมียร์ ลีค ครั้งที่ 16 โดยมีแชมป์เก่า และเจ้าของสัมปทานแชมป์อย่าง “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” คว้าตำแหน่ง เดอะ วินเนอร์ ไปครองสิริรวมแล้วก็เป็นถ้วยมงกุฎใบที่ 10 ในโรงละครแห่งความฝันแห่งนี้แล้วซึ่งหากรวมกับแชมป์ลีคสูงสุดนับตั้งแต่โบราณกาล ก็จะเป็นแชมป์ที่ 17ขาดอีกเพียงครั้งเดียวก็จะขึ้นไปเทียบเคียงกับทีมที่ได้ชื่อว่า “ยิ่งใหญ่ที่สุดบนเกาะอังกฤษ” มาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ที่หยุดสถิติอันใหญ่ยิ่งอยู่ที่ 18 สมัย มายาวนานถึง 18 ปีเข้าให้แล้ว และยังไม่รู้ว่าจะร้างราต่อไปอีกสักกี่ปี
ปีศาจแดง เริ่มต้นฤดูกาลนี้ได้ไม่ดีนัก เป็นการออกสตาร์ทที่ย่ำแย่ในรอบหลายสิบปีทีเดียวเมื่อไม่อาจเก็บชัยชนะได้เลยใน 3 เกมแรก และทำได้เพียง 2 แต้มเท่านั้นจนต้องไปนั่งสงบเสงียมเจียมตัวในอันดับที่ 17 ของตารางพรีเมียร์ ลีค ตกเป็นเบี้ยล่างให้ทุกทีมอื่นได้โอกาสค่อนเคาะว่าคงจะหมดโอกาสในการป้องกันแชมป์ไปเสียแล้วโดยเฉพาะสุดยอดทีม ที่พากันยกพวกถล่มทีมอย่าง “ดาร์บี้” เละเทะไปถึง 6-0 จนขึ้นไปยืนตระหง่านอยู่บนบัลลังจ่าฝูง และปวารณาว่าตัวเองจะคว้าแชมป์มาครองได้แน่นอนแม้จะมีคนเตือนว่าระยะเวลาฟาดแข้งยังเหลืออีกมาก…แต่ก็ไม่ได้นำพา
แต่แล้วปีศาจแดงก็ค้นพบมวลสารเนื้อดีที่ใช้ประกอบพิธีอัญเชิญวิญญาณปีศาจขึ้นจากขุมนรกได้สำเร็จด้วยลูกยิงไกลจากฝีเกือกของไอ้หนูฝอยทองคนใหม่นาม “นานี่” เพียงประตูเดียว ก็กลายเป็น 3 แต้มแรกที่ยูไนเต็ดควานหามาตั้งแต่เปิดฤดูกาลกลายเป็นจุดเริ่มต้นในการหลั่งไหลมาของ 3 แต้มต่อๆ มา

หลังจากได้มวลสารดี พิธีขลัง เกจิดัง วัตถุประสงค์ชัดเจน ชัยชนะก็วิ่งเข้าสู่รังปีศาจไม่ขาดสายรวมไปถึงชัยชนะเหนือคู่แข่งคนสำคัญอย่าง “เชลซี” ที่เพิ่งเปลี่ยนกุนซือ มาหมาดๆ จนทำให้จากที่ต้องจมอยู่ก้นตาราง เปลี่ยนมาสัมผัสกับตำแหน่งจ่าฝูงได้สำเร็จ เมื่อผ่านมาแค่ 6 นัดเท่านั้นแม้จะต้องสลับตำแหน่งกับ “อาร์เซน่อล” อยู่เป็นประจำก็ตามก่อนที่ผู้ท้าชิงจะเปลี่ยนมือมาเป็นของ “สิงห์สำอาง” ในช่วงโค้งสุดท้าย
เดิมทีอาเสี่ยแห่งกรุงลอนดอน ถูกคาดหมายว่าจะหลุดจากวงโคจรลุ้นแชมป์ไปตั้งแต่ต้นซีซั่นเมื่อต้องเปลี่ยนแปลงตัวแม่ทัพใหญ่ท่ามกลางสมรภูมิรบอันร้อนระอุจากพลเอกเครียด “มูรินโญ่” มาเป็นร้อยเอกคัน “แกรนต์” ตามใบสั่งด่วนจากทัพหลวงโดยการเปลี่ยนหัวเรือใหญ่คนใหม่นี่เอง ที่จะส่งผลให้ทัพสิงโตแตกพ่ายและหนีร้นไปคนละทิศคนละทางในไม่ช้าแต่แล้วนายใหญ่คนใหม่ ผู้สืบทอดทายญาติมาจาก “อ้าวเอี๊ยงฮง” ก็สามารถใช้ “พลังคางคก” ปราบเด็กในคาถาจนอยู่มัด ไม่มีแตกแถวเหมือนดังที่ถูกคาดไว้แถมเพื่อนร่วมเมืองอย่าง “อาร์เซน่อล” ยังมาสะดุดขาตัวเองให้อีกในท้ายฤดูกาลจึงทำให้เชลซีกลับมามีลุ้นแชมป์ได้จนถึงนัดสุดท้าย
แม้จะเริ่มต้นได้ไม่ดีนัก แต่ก็ลงท้ายด้วยแชมป์ จากผลงานอันเอกอุของเหล่านักเตะยูไนเต็ดทุกคนต้องยอมรับว่านักเตะชุดนี้ เปี่ยมไปด้วยความหลากหลาย และมากด้วยความสามารถยิ่งทุกคนมารวมตัวกันภายใต้ร่มเงาของ “ป๋าเฟอร์กี้” จึงกลายเป็นทีมที่กลมกล่อมลงตัวได้ไม่ยาก และไม่แปลกที่คำว่า “ทีมที่ดีที่สุดเท่าที่เคยคุมมา” หลุดออกจากปากท่านเซอร์แห่งเมืองวิสกี้

โดยความลงตัวเริ่มขึ้นเมื่อนายใหญ่แห่งโอลด์ แทรฟฟอร์ด สั่งนำเข้าเด็กใหม่ถึง 4 หน่อด้วยกันซึ่งล้วนแต่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการเติมเต็มพลังการบุกให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นกว่าฤดูกาลก่อน “ฮาร์กรีฟส์” เข้ามาเติมเต็มในส่วนมิดฟิลด์ตัวรับ ทำให้กองกำลังในแนวรุกใส่เกียร์บุกได้อย่างไร้กังวลแถมยังผันตัวเองมารับบทวิงแบ๊กในยามคับขันได้อย่างไม่ขัดเขิน “นานี่” กลายเป็นว่าที่ทาญาติของ “กิ๊กซ์” ได้อย่างเต็มภาคภูมิ เมื่อสามารถสลับตำแหน่งริมเส้นได้อย่างเนียนตาแถมประตูแรกของเจ้าตัวยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในการอัญเชิญปีศาจขึ้นจากหลุดอีกด้วย “แอนเดอร์สัน” ได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเองหลังจากการขาดหายไปของ “สโคลส์” อันเนื่องมาจากอาการบาดเจ็บแล้วบราซิเลี่ยนวัยกระเตาะก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เมื่อท้าชนกับมิดฟิลด์คู่แข่งชนิดไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งสิ้นและ “เตเบซ” ศูนย์หน้าวิ่งสู้ฟัดเยี่ยง “สิงโตล่าเหยื่อ” ซึ่งแม้จะไม่ได้ยิงประตูให้ทีมอย่างเป็นกอบเป็นกำ แต่ประตูสำคัญในยามที่ทีมต้องการ ก็ล้วนเป็นผลงานจากเจ้าของทรงผมหัวสิงโตทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นประตูชัยเหนือ “ลิเวอร์พูล” กับ “เบอร์มิงแฮม” หรือแม้แต่ประตูที่ช่วยให้ทีมหลุดรอดจากความปราชัย จนเก็บแต้มสำคัญได้จาก “สเปอร์ส” และ “แบล็คเบิร์น”
และแนวรุกของยูไนเต็ดคงไม่สมบูรณ์แบบ หากขาดปีกจอมสับนามกระฉ่อน “โรนัลโด้” แม้จะทำได้เพียงแค่เฉียดใกล้กับคำว่า “นักเตะที่ดีที่สุดในโลก” เมื่อปีก่อนแต่โรนัลโด้ก็พร้อมที่จะพิสูจน์ให้ทั่วโลกได้เห็นอีกครั้งว่าคู่ควรกับคำนั้นมากเพียงใดด้วยการรักษาฟอร์มอันร้อนแรงต่อเนื่อง จนกลายเป็นหัวใจในแนวรุกปีศาจแดงที่ไม่อาจขาดได้ และเติมเต็มความสมบูรณ์แบบเข้าไปด้วยผลงานการล่าตาข่ายทั้ง 31 ประตูในเกมลีค และ 41 ประตูจากทุกรายการจนสามารถคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ ทั้งจากเพื่อนร่วมอาชีพ และแฟนบอลรวมทั้งรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าว มาครองได้อีกสมัยนับเป็นนักเตะคนที่สองที่สามารถกวาดทั้ง 3 รางวัลมาครองได้ 2 สมัยติดต่อกันนอกจากนั้น ปีกจอมสับชาวโปรตุเกส ยังได้ทำลายสถิติอันเป็นประวัติศาสตร์ของสโมสรมายาวนานอีกด้วยกับสถิติ “นักเตะซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งกองหน้า ที่ทำประตูในหนึ่งฤดูกาลได้สูงที่สุดตลอดกาล” ซึ่งเทพบุตรลูกหนัง “จอร์จ เบสต์” บรรจงสร้างไว้ที่ 32 ประตู และยืนหยัดมาถึง 40 ปีแถมยังเกือบเทียบเท่าสถิติ “นักเตะที่ทำประตูในฟุตบอลลีค ในหนึ่งฤดูกาลสูงที่สุดตลอดกาล” จากผลงานของ “เดนนิส ไวโอเล็ต” ที่ทำไว้ 32 ประตู เมื่อฤดูกาล 1659-1660
แต่นอกจากแนวรุกที่พร้อมจะไล่ล่าประตู และส่องตาข่ายคู่แข่งทุกเมื่อแล้วอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งให้ปีศาจแดงเดินทางมาได้ถึงฝั่งฝันก็คือ แนวรับที่แข็งแกร่งแม้หน้าตาของแบ๊กโฟร์ จะเปลี่ยนแปลงไปจากซีซั่นก่อน ด้วยการขาดหายไปของ “กัปตันแกรี่” แต่ “บราวน์” ก็สามารถทำหน้าที่ทดแทนได้เนียนสุดๆ เปลี่ยนจากคำว่า “ยี้” เป็นคำว่า “เยี่ยม” อย่างไร้ข้อครหาประกอบกับความแข็งแกร่ง และการเล่นเข้าขารู้ใจของคู่ปราการหลัง “เฟอร์ดี้-วีดี้” ร่วมกับความเร็วของ “เอฟร่า” และความหนึบของ “น้าซาร์” ทำให้สามารถสร้างสถิติเสียประตูน้อยที่สุดของสโมสรขึ้นมาใหม่ ด้วยการเสียประตูให้คู่แข่งเพียง 22 ลูกเท่านั้น
และเหนืออื่นได้ ต้องไม่ลืมนักเตะทุกคนที่รวมตัวกันจนเกิดเป็น “ยูไนเต็ด” ชุดนี้แม้บางคนอาจจะมีโอกาสได้ลงสนามไม่มากนัก แต่ผลงานของทุกคนก็เป็นส่วนหนึ่งในชัยชนะอันยิ่งใหญ่แม้ “ฟอสเตอร์” จะมีโอกาสลงเฝ้าเสาเพียงนัดเดียว แต่ก็โชว์ซุปเปอร์เซฟ จนเก็บคลีนชีทได้สำเร็จแม้ “ซิมพ์สัน” จะสัมผัสสนามได้เพียง 3 นัด แต่ก็สามารถการเติมเกมบุกจนเก็บมาได้ 1 แอสซิสแม้ “ซิลแวสตร์” จะบาดเจ็บไปนาน แต่ก็สามารถกลับมาไล่เสียบนักเตะเชลซีอย่างไม่บันยะบันยัง และแม้ “ซาฮา” จะใช้เวลาส่วนใหญ่บนเตียงหมอ แต่ประตูโทนนัดชน “ซันเดอร์แลนด์” ก็ช่วยทีมเก็บ 3 แต้มเต็ม

แชมป์…ไม่ได้เกิดขึ้นได้ด้วยนักเตะเพียง 11 คน แต่เพราะมีนักเตะสลับหมุนเวียนลงสนามถึง 25 คน จึงทำให้ทุกคนสดพร้อมต่อกรกับคู่แข่งไม่ว่าใหญ่มาจากไหน เหมือนจิ๊กซอว์แต่ละชิ้น ที่มีขนาดใหญ่บ้าง เล็กบ้าง แต่หากขาดชิ้นส่วนใดชิ้นส่วนหนึ่งไป ก็ย่อมไม่อาจสร้างภาพแชมป์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และต้องไม่ลืมฝีมือการต่อจิ๊กซอว์อันยอดเยี่ยมของคุณลุงที่ยังมีแรงกระโดดโลดเต้นเป็นเด็กไปอีกนาน “เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน”
chokechone11

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts